ทัวร์คัมชัตก้า : กาลาน (Kalan) นากทะเลแห่งคาบสมุทรคัมชัตก้า

กาลาน เป็นชื่อในภาษารัสเซียของนากทะเลสายพันธุ์เอเชียน ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตก้า หมู่เกาะคอมมานเดอร์ ลงไปจนถึงหมู่เกาะคูริล ตัวโตเต็มวัยอาจมีน้ำหนักได้ถึง 45 กก. เป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลเดียวกับพังพอน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในทะเล ลักษณะพิเศษของนากทะเลคือ มีขนหนาพิเศษซึ่งหนาแน่นที่สุดในบรรดาอาณาจักรสัตว์ ที่มาทดแทนชั้นไขมันอย่างพวกสัตว์ตระกูลแมวน้ำหรือหมีสีน้ำตาล จึงทำให้ถูกล่าเพื่อเอาขนทำเสื้อกันหนาวที่เรารู้จักในชื่อ ชุดกันหนาวขนเฟอร์ (Fur coat suit) ส่งผลเกิดการล่านากทะเลจนเกือบสูญพันธุ์ จึงทำให้ กาลาน หรือ นากทะเลคัมชัตก้า มีรายชื่อใน สมุดบันทึกเล่มแดงของรัสเซีย

อาหารของนากทะเล (The sea otters Diet)
แม้นากทะเลจะสามารถเดินบนบกได้ แต่ก็อาศัยอยู่เฉพาะในมหาสมุทรเท่านั้น โดยชอบนอนหงายในน้ำและกินอาหารของมัน ที่มักจะเป็นหอยมีเปลือก ปู กั้ง ปลิงทะเล ปลาหมึก และเป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดบนที่โลก ที่รู้จักใช้เครื่องมือในการหาอาหาร โดยใช้ก้อนหินกะเทาะเปลือกหอยที่วางอยู่ที่หน้าท้องให้แตก หรือทุบไปที่หินก้อนใหญ่เพื่อให้เปลือกหอยแตก โดยนากทะเลสามารถกินได้มากถึง 5-8 กก.ต่อวัน

สายพันธุ์นากทะเล (The subspecies of the sea otter)
นากทะเล เป็นสัตว์ทะเลที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในมหาแปซิฟิกเหนือ ซึ่งมีสามสายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เอเชียน (Asian sea otter) กระจายตัวหากินตั้งแต่หมู่เกาะคูริล คาบสมุทรคัมชัตก้า หมู่เกาะคอมมานเดอร์, สายพันธุ์เหนือ (Northern sea otter) กระจายตัวหากินอยู่บริเวณคาบสมุทรอะลาสก้า หมู่เกาะอะเล็กซานเดอร์, เกาะแวนคูเวอร์ และชายฝั่งตอนเหนือของมลรัฐวอชิงตันและโอเรกอน, และสายพันธุ์ใต้ (Southern sea otter) กระจายตัวหากินอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลตอนกลางและตอนใต้ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และคาบสมุทรบาชา แคลิฟอร์เนีย (Baja California Peninsula)

นากทะเลสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม (The sea otter and environment)
เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศใกล้ชายฝั่งทะเล โดยหากไม่นากทะเล จะทำให้เม่นทะเลล้นพื้นทะเลและกัดกินป่าเคลป์ ซึ่งเป็นที่กำบังและเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลอื่น ๆ ทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศน์สูญเสียไป และนากทะเลยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศทางอ้อม เนื่องจากสาหร่ายทะเลในป่าเคลป์ จะดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์เอาทำให้ป่าสาหร่ายทะเลแข็งแรง

สิงโตทะลคัมชัตก้า (Kamchatka sea lion)
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลแมวน้ำ พวกมันอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ โดยมีถิ่นอาศัยอยู่ขอบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรคัมชัตก้า เป็นสัตว์ประจำถิ่นที่มีจำนวนประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ปัจจุบันจัดได้ว่าจำนวนประชากรเหลืออยู่ “น้อยมาก” ทำให้สิงโตทะเลตกอยู่ในภาวะต้องให้ความคุ้มครองในฐานะสัตว์หายาก และเป็นสัตว์หนึ่งที่มีรายชื่อในสมุดบันทึกเล่มแดงของรัสเซีย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองขององค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั้ง ยูเอ็น (UN), องค์การสัตว์ป่าโลก (WWF), กรีนพีช (Greenpeace) และองค์อื่นๆ

จากการเติบโตของ เปตราปาฟ์ลอสค์-คัมชัตสเกีย (Petropavlovsk-Kamchatskiy) เมืองเอกและเมืองท่าสำคัญทางฝั่งตะวันออกสุดของรัสเซีย ที่เต็มไปด้วยอุตสาหกรรมประมง และตั้งอยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของสิงโตทะเลคัมชัตก้า ทำให้สิงโตทะเลบางส่วนหลั่งไหลเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ ตามท่าเรือหรือสิ่งปลูกสร้างร้างริมทะเล นอนแผ่หลาบนก้อนกรวดเย็น ๆ ที่ถูกคลื่นซัดอย่างอิสระ และกลายเป็นสัตว์ที่คนท้องถิ่นเอาใจใส่และหน่วยงานของรัฐบาลรัสเซียให้การดูแลและปกป้องอย่างดี ทำให้เปตราปาฟ์ลอสค์-คัมชัตสเกีย กลายเป็นสถานที่ดูสิงโตทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอเมริกันที่ไม่เคยเห็นสิงโตทะเล หลั่งไหลมายังเมืองนี้