เขาหวงซาน : ยืดเส้นยืดสายบนเขาหวงซาน

แว๊บแรก….เขาหวงซานเค้ามีกระเช้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดเขาหลายจุดช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก มองเห็นจากรูปภาพตามอินเตอร์เนทแล้วก็คงเหมือนๆ ทุกที่แหละ…….
เดชะบุญที่ได้พักบนหวงซานสี่วันสามคืน ทำให้ได้เห็นอะไรกว่าที่คิดไว้มากมาย ไม่แปลกใจที่เขาหวงซานได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ สี่วันสามคืนบนเขาหวงซานนี้ให้ภาพสวยๆ แก่เรามากมาย การอยู่หลายคืนบนเขาหวงซานนั้นช่วยให้เราได้มีโอกาสได้เห็นภาพความงามในวันที่ฝนตกหนัก หิมะลงจัด และในวันสุดทส้ายก็ได้เปลี่ยนเป็นวันฟ้าใสเห็นเกร็ดหิมะส่องประกายแวววาวแข่งกับม่านหมอกหนาโอบล้อมภูเขา…. โอ้พระเจ้า ทริปนี้ได้อะไรเยอะจริงๆ

เขาหวงซานอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน โดยเราสามารถเดินทางจากประเทศไทยแบบบินตรงด้วยสายการบินจีน เช่น แอร์ไชน่า ไฟลท์บินจะไปถึงเมืองหางโจว ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับภูเขาหวงซานมากที่สุดในตอนเช้า ก็นับว่าเป็นไฟลท์ที่สวยงามเชียวแหละ เพราะสามารถเดินทางจากหางโจวไปต่อยังภูเขาหวงซานได้ในเช้านี้เลย การเดินทางก็จะมีแวะทานข้าวระหว่างทาง และหากไม่รถติดมากก็สามารถขึ้นไปนอนบนเขาหวงซานคืนแรกนี้ได้เลย หลังๆมา การท่องเที่ยวเส้นทางเขาหวงซานเฟืองฟูมาก ผู้คนท่องถิ่นเดินทางไปกันเยอะทำให้รถติดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักท่องเที่ยวก็ไม่ควรเสียเวลาระหว่างทางมากเกินไปให้ตรงไปที่เขาหวงซานได้เลย แต่ถ้าวันแรกของการเดินทางไม่ต้องการเร่งรีบ อยากแวะเที่ยวจุดต่างๆ ก่อนขึ้นเขาก็ต้องดีไซน์โปรแกรมให้นอนพักที่ตีนเขาหวงซาน หรือเมืองท่องเที่ยวระหว่างทางก่อน จากนั้นค่อยขึ้นเขาหวงซานในวันถัดไป

ที่พักแสนสบายบนเขาหวงซาน

ที่พักบนเขาหวงซานนั้นมีทั้งแบบ 3 ดาว 4 ดาว และแบบ 5 ดาว ตามความชื่นชอบของผู้พักได้เลย ซึ่งจะกระจายตัวอยู่ในจุดต่างๆ ของภูเขา สำหรับทริปนี้เป็นกลุ่มผู้ผ่านโลกมามากเห็นอะไรมาก็เยอะ ลำบากมาก็เยะ ดังนั้นที่พักของเราจะเป็นโรงแรม 5 ดาวนอนสบายๆ กลางวันเดินเที่ยวชมธรรมชาติ กลางคืนขอนอนอย่างดี กินอาหารอร่อยก็แล้วกัน

ข้อดีของการนอนโรงแรมห้าดาวที่ชื่อว่า Xihai Hotel นั้นก็คืออยู่ใกล้สถานีกระเช้าทั้งสองแห่ง
-Paiyun Cable Station
-Purple Cloud Station
จากโรงแรมที่พักสามารถเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ง่ายดายและไม่ไกลมาก หากเลือกขึ้นเขาในเช้าวันถัดไปก็จะมีเวลาไปชมพระอาทิตย์ตกได้ในเย็นนี้เลยที่จุดชมวิวที่ชื่อว่า Purple Cloud Peak จะมองเห็นพระอาทิตย์ตกเป็นสีส้มค่อยๆ เผยตัวออกมาจากริมหน้าผาฝั่งขวา
หากขึ้นกระเช้าที่สถานี Yungu Cable Car Station จะเป็นกระเช้ายอดฮิต เนื่องจากว่าอยู่ใกล้กับทางเข้าอุทยานมากที่สุด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ขึ้นกระเช้าที่สถานีนี้ เมื่อขึ้นไปบนเขาแล้วก็สามารถเก็บสถานที่ชมวิวระหว่างทางได้เลยก่อนที่จะเดินต่อไปยังที่พักซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลออกไปเล็กน้อย โดยมีจุดชมวิวเด่นๆ คือ Mushroom Pavilion โรงแรมที่ใกล้จุดชมวิวฝั่งนี้คือโรงแรม Beihai Hotel เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว(ในเกรด 3 ดาวบวก) และเมื่อต้องการเที่ยวในจุดต่างๆ ก็ต้องเดินจากโรงแรมไกลออกไปค่อนข้างเยอะ ในขณะที่พักที่ Xihai Hotel จะอยู่ใกล้ทางแยกที่สามารถเลือกไปชมวิวเส้นทางเทรลฝั่งกวนหมิงติ่ง และ จุดชมวิวฝั่งซีไห่ แกรนด์แคนยอนทะเลตะวันตก ได้ไม่ไกลมาก

เขาหวงซาน

จุดชมวิวกวนหมิงติ่ง

เช้าตรุ่ของวันใหม่ออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Purple Cloud Peak ที่จะต้องออกจากโรงแรมที่พักเร็วสักหน่อยเพื่อจะได้แหวกฝูงชนที่ไปจับจองมุมเด็ดเพื่อสามารถถ่ายรูปพระอาทิตย์แหวกม่านหมอกขึ้นมาให้เราได้ยลโฉม แสงของพระอาทิตย์กระทบกับมวลอากาศของโลกกลายเป็นสีส้มเจิดจ้าสวยงามในขณะที่หมอกสีขาวโพลนจับตัวหนาเหมือนว่าไม่อยากให้พระอาทิตย์มาแย่งความโดดเด่น เพียงชั่วอึดใจเหล่าม่านหมอกก็ค่อยๆ ลดตัวลงต่ำ ปล่อยให้พระอาทิตย์พระเอกของเราในเช้านี้ส่องแสงสวยงามอย่างไม่กลัวเกรง เสียงตากล้องทั้งหลายลั่นชัตเตอร์อย่างไม่หยุดหย่อน นับรวมได้เป็นร้อยเป็นพันภาพอย่างไม่ต้องสงสัย เช้านี้นักเดินทางข้ามชาติอย่างเราๆ ดื่มด่ำความงามของพระอาทิตย์อย่างอิ่มเอมเต็มที่ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนออกแรงเดินต่อไปยังจุดชมวิวกวนหมิงติ่ง

ยอดเขากวนหมิงติ่งนั้นอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของภูเขาหวงซาน ที่จะต้องออกแรงเดินไปประมาณ 30-40 นาทีผ่านทางราบสลับกับบันไดที่ทางรัฐบาลจัดทำเอาไว้ให้อย่างดี ยอดเขากวนหมิงติ่งนั้นเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของภูเขาหวงซาน ที่สามารถมองเห็นมุมต่างๆ ของทิวเขาได้อย่างหลากหลาย เส้นทางเดินเป็นทางราบค่อนข้างเยอะ และมีสลับทางบันไดเป็นช่วงๆ เดินไปเรื่อยๆ แวะตามจุดต่างๆ Rock Watching Pavillian ชมวิวยอดเขาเทียนตู่ (หรือเรียกอีกอย่างว่าเมืองหลวงแห่งสวรรค์) ซึ่งสูงเป็นอันดับที่สามของเขาหวงซาน ชมเก๋งไผหยุน จุดชมวิวไห่ซิน จากจุดนี้สามารถมองเห็นผาหินลอยฟ้าได้ในระยะไกล มองเห็นก้อนกินขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ และปิดท้ายที่จุดชมวิวยอดเขาเต่า จากนั้นจึงเดินกลับสู่ที่พักไปพักน่องสำหรับวันแรกนี้

จุดชมวิวฝั่งแกรนด์แคนยอนทะเลตะวันตก

ในวันนี้เราไปเก็บวิวที่จุดชมวิว หน้าผาหินลอยฟ้า (Flying Over Rock) ที่เราตั้งคำถามเอาไว้ในใจถึงหินก้อนใหญ่ตั้งโดดเด่นแต่ไกลตั้งแต่เมื่อวาน หินลอยฟ้าเป็นภูเขาที่มีก้อนหินใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเดินเข้าไปยังจุดนี้ก็จะสามารถเห็นเส้นทางเดินเมื่อสักครู่ได้อย่างถนัดตาเช่นกัน เราและเพื่อนหากแยกกันอยู่คนละสองฝากฝั่งก็สามารถโบกมือหากันได้โดยง่าย นับเป็นความสนุกอีกแบบ เป็นความชื่นใจเล็กๆ หลังจากที่เดินมาแล้วช้าๆ กว่า 1 ชั่วโมง จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวภูเขาที่ไล่ระดับลดหลั่นสลับซับซ้อน ในวันที่มีหมอกมากก็จะสามารถมองเห็นเหล่าหมอกสีขาวลอยละเลียดหน้าผากว้างไกลสุดตา หากเป็นวันที่มีหิมะโปรยปรายมาเบาๆ ตั้งแต่เช้าก็จะสามารถเห็นเกล็ดหิมะสะท้อนแสงสีขาววิววับอยู่ได้ทั่วไปน่าตื่นตา

เขาหวงซาน : ผาหินลอยฟ้า

บ่ายนี้เดินต่อไปยังโซนแกรนด์แคนยอน ซึ่งจะเป็นเส้นทางเดินวงแหวนรอบภูเขา มองเห็นร่องหน้าผาแต่ละร่องได้อย่างชัดเจน จะได้วิวภูเขาที่แตกต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง ที่จุดแกรนด์แคนยอนนี้จะมีวงแหวนอยู่ 2 วงใหญ่ให้ได้เดินเก็บภาพความประทับใจ

ในโซนนี้จะเริ่มจากจุด Dispelling Cloud Pavillion ซึ่งเป็นลานใหญ่ก่อนที่จะเข้าสู่วงแหวนทั้งสองวง การที่จะเก็บเส้นทางวงแหวนทั้งสองวงก็อาจจะนาวนานเหนื่อยล้ามากเพราะใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง บางคนอาจเก็บเส้นทางนี้เพียงวงแหวนเดียว จากนั้นเดินกลับมาที่จุด Dispelling Cloud Pavillion เพื่อพักน่อง และรอเก็บภาพความประทับใจของพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่ หรือหากไม่ต้องการเก็บพระอาทิตย์ตกดินในวันนี้ก็สามารถเดินต่อไปยังเส้นทางสะพานนางฟ้าที่อยู่ใกล้กับโรงแรมไป่หยุนต่อก่อนที่จะเดินกลับที่พักแบบสบายๆ ในวันนี้ก็ได้

ภาพความประทับใจเขาหวงซานในช่วงที่มีฝนตกตลอดทั้งวัน หลังจากนั้นหลังวันฝนตกความงามก็บังเกิดให้เราได้ชื่นใจก่อนที่จะลงจากเขาหวงซาน

การมาเที่ยวเขาหวงซานเป็นการมาเพื่อชมธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถคาดเดาอากาศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางภูเขาอย่างนี้ ในช่วงเช้าอาจเจอฝน ในช่วงบ่ายอาจได้เจอหิมะ วันนี้และวันพรุ่งนี้ย่อมแตกต่างเสมอ แต่ที่แน่ๆ เราจะได้ความงามที่แตกต่างหลากหลายกลับบ้านไปเสมอด้วยเช่นกัน การเที่ยวของเราจะเกิดความประทับใจมากน้อยอย่างไร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของเราในแต่ละที่และในแต่ละวัน