เที่ยวตุรกี - เสน่ห์ธรรมชาติและวัฒนธรรม
ประเทศตุรกี เป็นประเทศท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไป เที่ยวตุรกี กันมากเพราะประเทศตุรกี มีธรรมชาติสุดอัศจรรย์ มีเมืองใหญ่อันดับสองของตะวันออกกลาง และเป็นเมืองสำคัญที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก นอกจากนี้อิสตันบูลยังเป็นเมืองที่ชื่อได้ว่าอยู่สองทวีปอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งอยู่ในเอเชียมีดินแดนผืนใหญ่เรียกว่า “อนาโตเลีย” และมีดินแดนอีกส่วนหนึ่งยื่นเข้าไปในเขตของประเทศยุโรป เมื่อท่อง เที่ยวตุรกี ท่านจะสังเกตุได้ว่าใน อิสตันบูล นั้นผู้คนจะมีลักษณะหน้าตาโดยรวมเหมือนฝรั่งมากกว่าแขก การแต่งตัวการใช้ชีวิตที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับชาวยุโรปเป็นส่วนมาก นักท่องเที่ยวนิยม เที่ยวตุรกี โดยมีเป้าหมายที่เมืองอิสตันบูลร่วมด้วย เพราะอิสตันบูลนั้นเป็นเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย เป็นเมืองติดริมทะเลทั้ง ทะเลมาไมร่า และทะเลดำ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้เติมเต็มเสน่ห์ของอิสตันบูลให้ผู้คนมา เที่ยวตุรกี กันมากมาย ในการ เที่ยวตุรกี แต่ละครั้งนักท่องเที่ยวมักจะ เที่ยวตุรกี แบบครบทั้งประเทศ เที่ยวตุรกี แบบม้วนเดียวจบ โดยส่วนใหญ่ถ้าไม่เริ่มต้นที่อิสตันบูลก็จะไปจบที่อิสตันบูลเสมอไป ในการ เที่ยวตุรกี นั้นสามารถแจกแจงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้หลักๆ ดังนี้
เมืองชานัคคาเล่ เที่ยวชมม้าไม้แห่งทรอย
เมืองชานัคคาเล่ เป็นเมืองท่านที่อยู่ถัดลงมาจากอิสตันบูลทางตอนใต้ โดยมีทะเลมาไมร่าเป็นตัวสร้างระยะห่างของทั้งสองเมือง โดยเมืองชานัคคาเล่ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีพื้นที่ตั้งอยู่สองทวีป ในการมา เที่ยวตุรกี ในเมืองชานัคคาเล่นั้นสามารถเดินทางมาจากฝั่งยุโรปได้โดยการนั่งเฟอรี่ หรือใช้การเดินทางโดยรถยนต์ขับจากอิสตันบูลดินแดนฝั่งทวีปเอเชียลัดเลาะริมทะเลเข้ามาที่ตัวเมืองชานัคคาเล่ ที่เมืองชานัคคาเล่นั้นมีสิ่งดึงดูดที่สำคัญต่อนักท่อง เที่ยวตุรกี นั่นคือ ริมทะเลอันเป็นท่าเรือข้ามฝากจะมีม้าไม้ตั้งอยู่ ซึ่งม้าไม้นี้เป็นม้าไม้ที่สร้างโดยผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่ได้มาถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับเมืองทรอย ในประเทศตุรกี นอกจากนี้เมืองชานัคคาเล่ยังมีสิ่งสำคัญที่เป็นแหล่งดึงดูดนัก เที่ยวตุรกี อีกประการหนึ่งคือ เมืองทรอยโบราณ เมืองทรอยโบราณตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชานัคคาเล่ ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเมืองโบราณที่ขุดค้นพบและได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งให้ผู้ที่มา เที่ยวตุรกี ไดเข้าชมอย่างสะดวก และได้ศึกษาถึงประวัติศาสตร์ที่ย้อนลำรึกไปถึงสงครามโทรจัน แห่งทรอย ผู้ที่ชอบประวัติศาสตร์และศึกษาเรื่องราวเก่าๆ ในอดีตก็มักจะมา เที่ยวตุรกี โดยบรรจุเมืองทรอยโบราณเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการ เที่ยวตุรกี ด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรป แต่คนไทยที่ เที่ยวตุรกี บางท่านอาจไม่ให้ความสำคัญมากนัก เพราะพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเมืองโบราณทรอยนั้น จะมีลักษณะเป็นซากเมือง ทำให้ท่านที่ไม่ชอบประวัติศาสตร์ หรือไม่มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเมืองทรอยอาจมา เที่ยวตุรกี แล้วรู้สึกเบื่อก็ได้
เที่ยวตุรกี แวะชมม้าไม้ฮอลลีวูด | เที่ยวตุรกี พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งทรอย |
เที่ยวตุรกี เที่ยวเมืองเบอร์กามานครอะโครโปลิส
เที่ยวตุรกี ชมนครโบราณอโครโปลิส เป็นเมืองกรีกโบราณ ที่อยู่เนินเขาสูง ทำให้รู้สึกอัศจรรย์มากว่าทำไมมาสร้างเมืองในจุดที่สูงถึงเพียงนี้ และไม่ทราบจุดประสงค์ในการสร้างไม่ทราบแน่ชัดว่าเพื่อเป็นการปกครองท้องถิ่น หรือเพื่อประการใด โดยเมืองโบราณนี้ ประกอบด้วย หอสมุด วิหารทราจัน โรงละครซึ่งจุผู้ชมถึง 10,000 คน วิหารดิโอนิซุส-เทพแห่งเมรัย แท่นบูชาและวิหารเทพีเดเมเตอร์-เทพธิดาแห่งเกษตรกรรม
เที่ยวตุรกี เมืองเซลจุก
เมืองโบราณเอเฟซุส (Roman City Of Ephesus) เป็นเมืองโบราณที่ไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าอายุที่แท้จริงของเอเฟซุสควรจะเป็นเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเป็นเมืองโบราณ ที่คงจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี แต่นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่าน่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วง 600 กว่าปีก่อนคริสตกาล จากนั้นพวกกรีกและโรมันเข้ามาครอบครองเมืองโบราณแห่งนี้ ขณะที่บางตำราบอกว่าชาวไอโอเนียนเคยอาศัยอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ 1 พันปีก่อนคริสตกาล ด้วยความสมบูรณ์และบอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้มากมายทำให้ผู้ที่มา เที่ยวตุรกี ต่างชื่นชมถึงความงามของกาลเวลาของสถานที่แห่งนี้
กล่าวถึงช่วงที่โรมันเข้ามายึดครองราวศตวรรษที่ 1 และได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันที่อยู่ในเอเชีย รวมถึงเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เอเฟซุสถือว่ารุ่งเรืองสุดขีด ช่วงนั้นในย่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เอเฟซุสถูกกระหน่ำทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติโรคภัยร้ายแรงเล่นงาน ไปจนถึงสงคราม ทำให้เอเฟซุสเป็นเมืองกลายเป็นเมืองที่จุมลงอยู่กับอดีต กระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อมีนักโบราณคดีไปทำการสำรวจและขุดค้น จึงพบว่าเมืองโบราณแห่งนี้ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก รัฐบาลตุรกีพยายามบูรณะอย่างทะนุถนอม แม้แต่ถนนหินอ่อนที่ทอดยาวเกือบ 2 กม. ก็ได้รับการฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพเดิม และผลักดัน ประชาสัมพันธุ์ให้กลายเป็นแหล่งท่อง เที่ยวตุรกี ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรกี
ทุกวันนี้เอเฟซุสกลายเป็นแหล่งท่อง เที่ยวตุรกี ยอดนิยมที่คนมาตุรกีแทบไม่มีใครยอดพลาดมาชมเมืองโบราณแห่งนี้มีหลายจุดในเมืองที่ฉายภาพความยิ่งใหญ่ในอดีตให้เห็นอย่างหมดเปลือก
โรงละครเอเฟซุส (The great Theater) โรงละครใหญ่ขนาดจุคนได้ 2-3 หมื่นคน ใหญ่เป็นดันดับ 3 ของตุรกีที่ปัจจุบันยังคงใช้งานได้จริง ที่เห็นอัฒจันทร์ครึ่งวงกลมแห่งนี้ยังสภาพดี เพราะบูรณะไปหลายรอบ ข้อสำคัญเป็นโรงละครที่ระบบเสียงล้ำเลิศ เพราะเมื่อมีการแสดงไม่จำเป็นต้องใช้ลำโพงหรือเครื่องขยายเสียงแต่อย่างใด ในการบันทึกประวัติการท่อง เที่ยวตุรกี ในแต่ละปีจึงพบว่าผู้มา เที่ยวตุรกี ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองโบราณเอเฟซุสจำนานมากอันดับต้นๆเลยทีเดียว
เที่ยวตุรกี เมืองกรีซโบราณ | เที่ยวตุรกี ห้องสมุดเอเฟซุส |
เที่ยวตุรกี ชมปราสาทปุยฝ้ายปามุคคาเล่
ปามุคคาเล่ มีหน้าผาสีขาวขุ่นหน้าตาเหมือนธารน้ำแข็งขั้นบันไดซึ่งเกิดจากธารน้ำแร่ร้อนที่มีส่วนผสมของแคลเซียมออกไซด์ผุดขึ้นจากใต้ดิน เกิดการตกตะกอนเป็นหินปูนห่มเนินเขาทั้งลูกมาเนิ่นนานนับพันปี จนกลายเป็นชั้นหินลดหลั่นเหมือนระเบียงหิมะ งดงามจนได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและของชาติในในปีค.ศ.1988 ซึ่งในภาษาเตอร์กิส ปามุคคาเลถอดความได้ว่าปราสาทปุยฝ้ายหาก เที่ยวตุรกี โดยไม่บรรจุโปรแกรมนี้เข้าไปด้วยก็นับว่า เที่ยวตุรกี ในแบบที่ยังมาไม่ถึงตุรกี เพราะปามุคคาเล่นั้นขึ้นชื่อกระจายโด่งดังไปทั่วโลก ผู้ที่มา เที่ยวตุรกี ต่างเก็บความประทับใจไปกับปราสาทปุยฝ้ายแห่งนี้ นอกจาก เที่ยวตุรกี โดยมีปามุคคาเล่เป็นเป้าหมายแล้ว ในบริเวณเดียวกันยังมีเมืองโบราณที่เชื่อว่าเป็นเมืองพักตากอากาศในยุคกรีกรุ่งเรือง และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของราชนิกูลในสมัยโบราณด้วยเพื่อมาอาบน้ำแร่สร้างเสริมสุขภาพกันที่นี่
ในอดีตทางการท่อง เที่ยวตุรกี อนุญาตให้เดินเล่นสัมผัสแนวหินปูนปราสาทปุยฝ้ายได้ด้วยตนเอง ท่านสามารถย่ำเท้าเปล่าลงบนหินปูนภายใต้น้ำสีฟ้าใสและรับไอร้อนเบาๆของน้ำแร่นี้ได้ แต่ปัจจุบันการท่อง เที่ยวตุรกี ไม่อนุญาตให้ทำแบบนี้อีกต่อไปแล้วเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งมีคุณค่าทางธรรมชาติให้อยู่ต่อไปอีกยาวนาน
เที่ยวตุรกี ปราสาทปุยฝ้าย | เที่ยวตุรกี ปราสาทปุยฝ้าย |
เที่ยวตุรกี เที่ยวอัศจรรย์ธรรมชาติคัปปาโดเกีย
สิ่งอัศจรรย์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองคัปปาโดเกียคือ ภูเขาหินที่ตั้งตระหง่านเป็นแท่งชี้ฟ้าโดดเด่นมากมาย แท่งเสาหินเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เกิดจากการทับถมของเนื้อดินตามกาลเวลา และในช่วงเวลาหนึ่งเกิดภูเขาไฟระเบิดจนเกิดเป็นลาวาปกคลุมพื้นผิวดินเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นกาลเวลาก็ดำเนินต่อไปในลักษณะลมพัดโกรก ทำให้พื้นดินที่ไม่มีลาวาปกคลุมถูกสายลม สายน้ำกัดกร่อนไปเรื่อยๆจนกลายเป็นรูปร่างของแท่งหิน แต่ที่ปลายของแท่งหินนี้กลับไม่ถูกทำลายกัดกร่อนไปได้โดยง่ายเพราะความแข็งแกร่งของลาวาที่ปกคลุมอยู่นั้นเอง ปัจจุบัน เมืองคัมปปาโดเกียจึงมีเนินภูเขาที่กลายเป็นรูปแท่งหินและมีปลายยอดเป็นสีดำดูแล้วเหมือนรูปดอกเห็ด หรือบางคนก็บอกว่าเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ดูแล้วน่าสนใจและน่าทึ่งทางธรรมชาติมากๆ ดังนั้นเมื่อมีใครมา เที่ยวตุรกี ก็จะมาที่คัมปาโดเกีย เพื่อชมสิ่งอัศจรรย์นี้ให้ทึ่งตะลึงงัน และหลายท่านที่มา เที่ยวตุรกี จะเลือกทำกิจกรรมเสริมอื่นๆ เช่น นั่งบอลลูนชมแท่งหิน หรือนั่งจี๊บซาฟารี ชมธรรมชาติในดินแดนเหล่านี้อย่างใกล้ชิด สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่เล่าขานของนักท่อง เที่ยวตุรกี เป็นอย่างมาก
สถานที่ต่อมาที่นิยมไม่แพ้กันของการมา เที่ยวตุรกี คือ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีโบสถ์ถ้ำเรียงรายอยู่หลายแห่ง เล่ากันว่าที่นี่มีโบสถ์ที่ข้างในเป็นถ้ำถึง 365 แห่ง เพราะสร้างโบสถ์ตามจำนวนวัน ช่วงศตวรรษที่ 4 คัปปาโดเกียถูกเรียกว่าเป็น Land of the Three Saints ในยุคนั้นโบสถ์สำคัญๆเกิดขึ้นมากมาย แต่ในยุคที่ศาสนาคริสต์รุ่งเรืองสุดขีดทำให้แถบนี้มีโบสถ์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ซึ่งโบสถ์ถ้ำที่เหลือส่วนใหญ่สร้างในศตวรรษที่ 10-12 โดยการขุดและเจาะภูเขาหิน ทำด้านในให้เป็นโบสถ์เพื่อเผยแผ่ศาสนาคริสต์ พอขุดเป็นโพรงได้ คราวนี้ก็ลงมือตกแต่งภายในด้วยการเนรมิตภาพเขียนสี วาดและขีดเขียนเป็นโบสถ์ถ้ำให้สวยงามไม่ต่างจากโบสถ์ทั่วๆไป จนเมื่อปีค.ศ.1984 ยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลก ด้านในของถ้ำนั้นเต็มไปด้วยภาพเขียนสีตามผนังและเพดานอย่างสวยสดงดงามนอกจากนี้บางถ้ำยังมีร่องรอยการอยู่อาศัยของพวกนักบุญทิ้งเอาไว้ ทั้งห้องครัว หรือมุมโต๊ะอาหาร
เมืองใต้ดินไคมักลี (Kaymakli Underground City) เป็นนครใต้พิภพแห่งนี้ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่ แต่นักโบราณคดีคะเนว่าน่าจะสร้างตั้งแต่ 5 พันปีก่อนคริสตกาล โดยทำการขุดเจาะพื้นหินลงไปใต้ดิน แบ่งเป็นชั้นต่างๆซ่อนห้องหับเอาไว้มากมาย มีทั้งห้องนอน ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บอาหารและเก็บเสบียง ห้องเก็บไวน์ ห้องครัว ห้องประชุม ลึกลงไปใต้ดินเกือบ 100 เมตร มีประมาณ 8-9 ชั้น โดยมีวัตถุประสงค์คือ มีไว้หลบภัยพวกศัตรูที่คอยจ้องรุกราน ด้านในของเมืองใต้ดินอุณหภูมิจะเย็นฉ่ำอยู่ตลอดทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17-20 องศา รวมทั้งมีที่เก็บข้าวปลาอาหารมากมาย สามารถอยู่ได้นานนับเดือน
นอกจากสถานที่สำคัญต่างๆที่กล่าวมาแล้วนั้น ประเทศตุรกี ยังมีเสน่ห์ของเมืองในแต่ละเมืองที่น่าสนใจ ให้คนที่สนใจ เที่ยวตุรกี ได้ศึกษาและมาเยือนด้วยตัวเอง และท่านล่ะ สนใจมา เที่ยวตุรกี กันบ้างหรือเปล่า
เที่ยวตุรกี คัปปาโดเกีย | เที่ยวตุรกี คัปปาโดเกีย |
#เที่ยวตุรกี #ทัวร์ตุรกี #กรุ๊ปเหมาตุรกี #เที่ยวตุรกี ไม่มีเบื่อ