ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ : 3 แหล่งโบราณคดีทางพุทธศาสนาบนเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ - เมืองชีลาส
กลุ่มงานแกะสลักหินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ภาพสลักหินกว่า 50,000 ชิ้นและจารึกมากกว่า 5,000 ชิ้น ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ แสดงถึงช่วงเวลาอันกว้างใหญ่ตั้งแต่ยุคหินใหม่ (Neolithic period ระหว่างสหัสวรรษที่ 6 ถึง 5 ก่อนคริสตกาล) จนกระทั่งภูมิภาคนี้กลายเป็นอิสลามในศตวรรษที่ 14 ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ การแกะสลักหินที่หลากหลายสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลจากแนวคิดทางวัฒนธรรมและศาสนาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ (ในหมู่ชาวซาเคียนและไซเธียนในสหัสวรรษแรกก่อนคริสต์ศักราช) ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ และเป็นตัวแทนของแหล่งรวบรวมที่มีเอกลักษณ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงของภูมิภาคนี้ ที่เชื่อมโยงเอเชียกลางกับอนุทวีปอินโด-ปากีสถาน
ภาพแกะสลักส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดมาจากในสมัยที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียกลาง หลังจากที่ได้สถาปนาตัวเองเป็นศาสนาใหม่ในศตวรรษที่ 1 ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ และมาถึงจุดสูงสุดระหว่างศตวรรษที่ 5-8
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของยุคนี้ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่บนจารึกหินริมแม่น้ำสินธุ ส่วนใหญ่เขียนด้วยภาษาขโรษตีในระยะเริ่มแรก และในภาษาพราหมณ์ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงตัวอย่างในอักษรซอกเดียน แบคเทรียนที่เป็นคู่ปรับจีน และ ทิเบตด้วย
ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ : ภาพหินแกะสลักโลราณที่มีความชัดเจนมาก
ภาพสลักหินโบราณนับร้อยนับพันภาพริมแม่น้ำสินธุ
ระหว่างการเดินทางไปบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือ คาราโครัมไฮเวย์ ผ่านหุบเขาชีลาสที่มีแม่น้ำสินธุไหลผ่าน บริเวณจุดพบกันของแม่น้ำสินธุกับกับธารน้ำทักคาห์ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชีลาสและภาพศิลปะสลักหินธัลปัน (Thalpan Petroglyphs) ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเป็นภาพสลักหินโบราณที่มีอายุย้อนไปหลายพันปีจนไปถึงเกือบหมื่นปี นอกจากจะมีรูปสลักอย่าง แพะภูเขา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าประจำถิ่นแล้ว ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ แต่ยังโดดเด่นด้วยภาพสลักทางพุทธศาสนามากมาย เช่น ภาพสถูปเจดีย์ พระพุทธเจ้านั่งสมาธิ และลวดลายทางศาสนา รวมถึงจารึกในภาษาต่างๆ
ตลอดเส้นทางเลียบแม่น้ำสินธุนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ที่มีการสัญจรของคาราวานพ่อค้า กองทหาร และนักสำรวจมานานนับพันปี บริเวณที่ราบธัลปัน (Thalpan Plain) แห่งนี้ จึงเป็นจุดค้างแรมระหว่างทางโบราณยอดนิยม ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ โดยพวกเขาได้ใช้ความสามารถในการแกะสลักหินพื้นฐาน ทิ้งร่องรอยต่างๆ รวมถึงความเชื่อทางศาสนาเพื่อช่วยให้กองคาราวานสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ไว้บนโขดหินริมแม่น้ำสินธุ ทำให้โขดหินบริเวณที่ราบธัลปันกลายเป็นแหล่งบอกเล่า เรียนรู้ เรื่องราวต่างๆ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและศาสนา ซึ่งได้แพร่กระจายไปตามทางหลวงบนเทือกเขาคาราโครัมแห่งนี้
นักท่องเที่ยว ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ สามารถเห็นภาพสลักหินโบราณจำนวนมากมายเหล่านี้ได้จากถนน และเมื่อเดินเข้าไปใกล้จะพบมากขึ้นเรื่อยๆ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งมีภาพเป็นร้อยเป็นพันภาพในบริเวณนี้ และภาพสลักที่โดดเด่นได้แก่ ภาพเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา เช่น ภาพชาดกแม่เสือผู้หิวโหย ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ภาพพระโพธิสัตว์มัญชุศรี ภาพพระพุทธรูปประดับอัญมณี พร้อมด้วยสาวกถือกระถางธูปหรือตะเกียงและสถูป พระพุทธองค์ในซุ้มโค้งวงแหวนสามวง (Trefoil shaped Arch) ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเป็นพุทธศิลป์สไตล์กัศมีร์ (แคชเมียร์) และภาพสกัดหินที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนไปได้กว่า 600 ปี ก่อนคริสตกาล และบางภาพมีอายุเก่าแก่เกือบ 2,700 ปีเลยทีเดียว
ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ : ภาพแกะสลักหินที่ยังอยู่จนถึงปัจจุบัน
ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ : นักท่องเที่ยวแวะริมแม่น้ำสินธุ ชมหินแกะสลัก “ชิลาสร๊อค”
พุทธชาดกเรื่อง “แม่เสือผู้หิวโหยกับดาบสผู้สละชีวิตเป็นทาน”
คุณเคยได้ยินเรื่องพระโพธิสัตว์กับแม่เสือหิวบ้างหรือไม่ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ เป็นเรื่องราวของการสร้างทานบารมีของพระพุทธเจ้า ที่ชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้ายังคงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ได้เปล่งวาจาปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในชาตินั้นพระองค์ได้เป็นดาบสมีศิษยานุศิษย์มากมาย ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ วันหนึ่งดาบสได้ขึ้นไปบนเขาแล้วมองลงไปในเหวลึก เห็นแม่เสือหัวโซจนตาลาย จ้องเขม็งทำท่าจะกินลูกของมัน โดยปกติแล้วแม่เสือจะรักลูกมันมาก แต่แม่เสือตัวนี้มันหิวมากจนทนไม่ไหว ทำท่าจะกินลูกของมัน ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ดาบสจึงรีบบอกกับลูกศิษย์ให้ไปหาเนื้อมาเลี้ยงเสือ มันจะได้หายหิวไม่กินลูกของมัน
ระหว่างที่ลูกศิษย์กำลังไปหาเศษเนื้อ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ดาบสเห็นท่าไม่ดี ไม่ทันการแล้ว เพราะแม่เสือทำท่าย่อตัวจะกินลูกของมันแล้ว ดาบสจึงได้อธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขอสละตนเองเพื่อช่วยชีวิตลูกเสือตัวนี้ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ขอเทวดาอารักษ์ทั้งหลายจงเป็นพยานด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอสละตัวเองเป็นทาน ให้ชีวิตเป็นทานเพื่อจะช่วยชีวิตลูกเสือนั้น ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต” ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ เมื่อสิ้นคำอธิษฐานก็กระโดดลงเหวให้เสือกิน เสือจะได้อิ่มไม่กินลูกของมัน
ตำนานแม่เสือผู้หิวโหยบนภาพสลักหินแห่งที่ราบธัลปัน
ในกลุ่มงานหินสลักโบราณริมแม่น้ำสินธุบนที่ราบธัลปันใกล้เมืองชีลาส ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ มีภาพสลักหินทางพุทธศาสนาเป็นเรื่องราวชาดกของแม่เสือผู้หิวโหย (Hungry Tigress Jataka) หรือ วยักฆรีชาดก (Vyaghri Jataka)
โดยในตำนานของอินเดียโบราณกล่าวว่า ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ เมื่อนานมาแล้วมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งในอินเดีย มีพระอนุชาซึ่งเป็นเจ้าชาย 3 องค์ ต่อมาพระราชาและเจ้าชายทั้งสามได้เสด็จไปเที่ยวเล่นในป่าไผ่ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งที่นั่นพระองค์และพระอนุชาได้พบกับแม่เสือกับลูกเจ็ดตัวที่กำลังหิวโหย ผอมแห้ง และอดอยาก ซึ่งเจ้าชายทั้งสามรู้สึกสงสารอย่างสุดซึ้ง ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ แต่เจ้าชายสององค์ได้จากไป โดยบอกว่าไม่สามารถช่วยชีวิตสัตว์เหล่านั้นได้ ในขณะที่เจ้าชายองค์ที่สามกลับตรัสว่า “พระโพธิสัตว์ได้ถวายตนด้วยความเมตตาเพื่อช่วยผู้อื่น ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ดังนั้นข้าพเจ้าขอเสนอตัวช่วยชีวิตเสือที่หิวโหยนี้” โดยเจ้าชายได้สละชีวิตยอมให้เสือกินเป็นอาหาร ตำนานเล่าต่อว่า เจ้าชายผู้ช่วยชีวิตเสือ คือ พระพุทธเจ้าในชาติที่แล้ว
ปัจจุบันภาพสลักหินดังกล่าวยังคงอยู่ แต่ก็เสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ โดยภาพสลักหินค่อนข้างจาง ทำให้ยากแก่การถอดแบบภาพสเก็ต ซึ่งในภาพสลักมีภาพของชายที่นอนอยู่ และแม่เสือและลูกของมันกำลังกินเขา ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ขณะที่มีชายอีก3 คนเฝ้าดูจากระยะไกลในที่ปลอดภัยด้านหลังก้อนหิน จากการถอดรหัสอักษรพราห์มีข้างภาพ ทำให้ทราบว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพของ วยักฆรีชาดก หรือ ชาดก (Jataka การบำเพ็ญเพียรในชาติต่างๆ ของพระพุทธเจ้า) ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ แม่ผู้หิวโหยกับลูกของมันและเจ้าชายผู้เสียสละพื้นผิวทั้งหมดของหินที่แสดงภาพชาดกแม่เสือหิว ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ มีภาพสถูปขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงกลาง มี อันดา (Anda ตัวองค์สถูปเจดีย์รูปโอคว่ำ) ครึ่งทรงกลมบนฐานสี่เหลี่ยม โดยมี หรรมิกา (Harmika บัลลังก์รองรับฉัตร) ฉัตร 9 ชั้น และป้ายสัญลักษณ์ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพุทธศิลป์สไตล์คันธาระ เชื่อกันว่าในยุคนั้นพระพุทธศาสนามีอิทธิพลสูงสุดในลุ่มแม่น้ำสินธุตอนบนประมาณศตวรรษที่ 5
ศิลปะสลักหินที่ตั้งอยู่บนภาวะเสี่ยงถูกทำลาย
แม้ว่าภาพสลักหินเหล่านี้จะเป็นที่รู้จักหมู่นักท่องเที่ยว ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ไปทั่วโลก และเป็นจุดท่องเที่ยวที่โดดเด่นบนเส้นทางสายคาราโครัม ที่น่าจะได้รับการคุ้มครองดูแลรักษาทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ภาพสลักหินเหล่านี้ไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นทางการ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ ภาพสลักโบราณบนหินบางก้อนถูกวาดทับด้วยกราฟิตี้ หรือข้อความอักษรอาหรับ ซึ่งคนท้องถิ่นมองว่าภาพสลักหินโบราณที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเห็นคุณค่า ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ แต่พวกเขามองว่าเป็นเพียงภาพกราฟิตี้ที่เก่ากว่าเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษโดดเด่นกว่ากันมากนัก
นอกจากโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำสินธุเพื่อการเกษตรบริเวณแม่น้ำสินธุตอนบน เมื่อเขื่อนแล้วเสร็จจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับงานสลักหินโบราณอันล้ำค่านี้ ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ การทำลายหินที่เต็มไปด้วยภาพสลักโบราณ เริ่มต้นจากการก่อสร้างทางหลวงคาราโครัมในทศวรรษที่ 1960 ซึ่งหินแกะสลักก็ถูกทำลายไปพร้อมกับการขยายถนนทุกครั้ง บางส่วนก็สูญหายไป ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ บางส่วนก็ถูกทาสีทับโดยคนท้องถิ่นมุสลิม ที่ไม่ชอบให้มีเรื่องราวของศาสนาอื่นอยู่ในพื้นที่ แม้พุทธศิลป์บนหินเหล่านี้จะถือกำเนิดมาก่อนพวกเขาก็ตาม ทัวร์คาราโครัมไฮเวย์ หรือแม้แต่ภาพเสือดาวหิมะที่กำลังไล่ตามแพะภูเขาอัลไพน์ ที่ถูกทาทับด้วยปูนขาว ก็เพิ่งได้รับการล้างออกเมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2020 นี้เอง