ทัวร์จอร์เจีย : เที่ยวกับทัวร์ใครว่าไม่สนุก 3 ที่ประทับใจเมื่อซื้อแพคเกจทัวร์จอร์เจีย
บทความนี้จะขอนำเรื่องราวประทับใจที่ลูกค้าทัวร์ของบีเจอร์นีไลฟ์ได้ซื้อแพคเกจทัวร์จอร์เจีย เที่ยวแบบส่วนตัว แต่ขอแบบสบายๆ มีการจัดรถส่วนตัวพร้อมคนขับ พาเที่ยวในจอร์เจียตะวันออก ตั้งแต่เหนือจรดใต้ของภาคตะวันออกของจอร์เจีย โดยบอกเล่าเรื่องราวของ 3 สถานที่เที่ยวสุดประทับใจ โดยในทริปนี้เดินทางช่วงต้นตุลาคม คอนเซปต์ทริปนี้คือ เที่ยวธรรมชาติจึงเลือกไปที่เมืองคาสเบกิ (Kazbegi) และต่อด้วยการ Hiking เบาๆ ขึ้นชมจูทาวัลเลย์ จากนั้นเดินทางไปบอร์โยมี่ (Borjomi) เมืองเล็กๆ ที่เป็นแหล่งน้ำแร่สำคัญของจอร์เจีย ปิดท้ายด้วยเดินทางไปตอนใต้ของจอร์เจียเข้าสู่ ซิกนาคิ (Signakhi) ดินแดนแห่งไวน์อันเลื่องชื่อของจอร์เจีย
ทัวร์จอร์เจีย : คาสเบกิ และ จูทาวัลเลย์
ทริปนี้เดินทางหลังจากโควิด19 แล้ว ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่เคร่งครัดเรื่องวัคซีนมากนัก แจ้งแต่ว่าเข้าได้หากนักท่องเที่ยวได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มก็เข้าประเทศได้เลย
หลังจากที่เดินทางถึงจอร์เจีย ?ที่อิมมิเกรชั่นตรวจเพียงพาสปอร์ตโดยไม่ได้ให้ความสนใจจะเรียกตรวจเอกสาร Vaccine Passport มากนัก เราผ่านอิมมิเกรชั่นมาอย่างเรียบง่าย และจากนั้นก็มาสารวนอยู่กับการเลือกซื้อซิมที่สนามบิน จากการหาข้อมูลและได้รับคำแนะนำจากบริษัททัวร์จอร์เจีย ที่เราเลือกใช้บริการ (ทัวร์บีเจอร์นีไลฟ์ ทราเวล) เพื่อนในกลุ่มเราเลือกที่จะซื้อซิมระหว่างประเทศครอบคลุมจอร์เจียจากประเทศไทยเข้ามาใช้ที่จอร์เจีย ส่วนเราเลือกที่จะซื้อซิมของประเทศจอร์เจียมากกว่า และเป็นคนชอบส่งรูปจึงคิดว่าซื้อของเค้าในแพคเกจสูงๆ น่าจะสะใจกว่า เพราะว่าอินเตอร์เนทซิมที่นี่ไม่แพง ราคาโคดคุ้ม ก็เลยเลือกซื้อซิมของจอร์เจียมากกว่า
เมื่อเราออกมาแล้วไกด์ท้องถิ่นก็มายืนรอรับที่ด้านนอกและช่วยจัดการเรื่องซื้อซิม และในบริเวณเดียวกันมีเคาน์เตอร์แลกเงิน เราก็หยิบ USD ที่เตรียมมาแลกเป็นเงิน “ลารี่” ที่นี่เสียเลยโดยแลกไม่เยอะมากประมาณ 100 USD เอาไว้ซื้อของกระจุกกระจิกและทานอาหารมื้อกลางวันและเย็นในบางมื้อ เพราะเราซื้อแพคเกจมานั้นเป็นแพคเกจมีรวมอาหารบางมื้อ
แพคเกจที่เราเลือกซื้อทัวร์จอร์เจีย ในทริปนี้
- รถตู้ส่วนตัวพร้อมคนขับ และมีไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยวและให้ความรู้ (เราก็อยากได้ความรู้เพิ่มเหมือนกันนะ)
- ที่พักระดับ 4 ดาว เน้นความเก๋ไก๋ เดินทางสะดวกมากกว่าความหรูหรา
- มีอาหารบางมื้อ เช่น วันที่เดินทางไกลหรือวันที่ควรจะไปร้านท้องถิ่นบ้านๆ ที่ให้เค้าเตรียมบาร์บีคิวอร่อยๆ ไว้รอ กับไม่รวมอาหารบางมื้อเช่น วันที่อยู่ในเมืองหลวง ก็ไม่ต้องรวมอาหารก็ได้เดี๋ยวหากินเอาเอง
เราเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองคาสเบกิ โดยแวะชมโบสถ์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ไหลมาบรรจบกัน มองเห็นเป็นแม่น้ำสองสี นั่นคือแม่น้ำมัควารี่ และ แม่น้ำอารักวี ที่โบสถ์ยวารี่ (Jvari Church) แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงมองเห็นวิวแม่น้ำอย่างชัดเจน เห็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยืนถ่ายรูปคู่กับวิวของแม่น้ำ และบางส่วนเข้าชมด้านในตัวโบสถ์ที่จะมีรูปไอคอนบอกเล่าเรื่องราวต่างๆภายในโบสถ์ โชคดีที่เราเลือกทัวร์จอร์เจียแบบที่มีไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยวทำให้ได้ความรู้ที่ยากจะคาดเดาอย่างนี้เพิ่มเติม เนื่องจากไอคอนบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ออโธดอกซ์ที่ห่างไกลจากความรู้ของพวกเรามาก การมีคนอธิบายเพิ่มก็ทำให้รู้สึกสนุกขึ้นเป็นกองเลย
จากนั้นเราเดินทางต่อไปยังเมืองคาสเบกิเส้นทางเมื่อเริ่มเข้าใกล้เมืองเป้าหมายมากขึ้นก็เริ่มสังเกตุได้ว่าเป็นเส้นทางคดเคี้ยวและไต่เนินเขาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ตลอดเส้นทางค่อนข้างมีรถสัญจรมากทีเดียว เรามีแวะจอดซื้อผลไม้ท้องถิ่นข้างทาง แวะชมโบสถ์อีกแห่งเพิ่มเติมและได้เข้าห้องน้ำไปด้วยในตัว จากนั้นจึงเดินทางถึงคาสเบกิใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจากเขตเมืองหลวง
เมื่อถึงเนินเขาก่อนขึ้นไปยังโบสถ์ เกอเกติ ทรินีตี้ (Gergeti Trinity Church) ต้องเปลี่ยนเป็นรถ 4WD นั่งกันครบคนพอดี 6 คนไต่เนินเขาขึ้นไปยังตัวโบสถ์ มีแวะถ่ายรูปวิวสวยๆ ในมุมต่างๆ ก่อนถึงตัวโบสถ์
ทัวร์จอร์เจีย : แวะถ่ายรูปวิวสวยๆ ข้างทางก่อนขึ้นถึงโบสถ์เกอเกติ ทรินีตี้
ทัวร์จอร์เจีย : แวะถ่ายรูปวิวสวยๆ ข้างทางก่อนขึ้นถึงโบสถ์เกอเกติ ทรินีตี้
อากาศในช่วงนี้กำลังเย็นสบาย ประมาณ 22 องศา แต่จะรู้สึกหนาวๆ หน่อยเมื่อขึ้นไปถึงตัวโบสถ์แล้ว เพราะว่าลมแรง วิวจากบนตัวโบสถ์จะมองเห็นภูเขาคาสเบกเบื้องหน้าใหญ่มากๆ ในขณะที่มองไปด้านล่างเป็นตัวหมู่บ้านสเตฟานสมินดา (Stepantsminda) ดูสวยงามคลาสสิคอย่างที่อยู่เมืองไทยจะไม่ได้เห็นแบบนี้
จูทาวัลเลย์ (Juta Valley)
วันต่อมารถ 4WD อีกชุดก็มารับเราเดินทางต่อจากเมืองสเตฟานสมินดามุ่งหน้าสู่หมู่บ้านจูทา (Juta) ซึ่งวันนี้เราจะได้ไฮกิ้งเบาๆ เพื่อจะได้ชมภูเขาแสนสวยที่เค้าบอกันว่าเป็นโดโลไมต์แห่งจอร์เจีย
เราเดินทางไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เริ่มเห็นภูเขาสูงรอเราอยู่ เมื่อถึงแล้วรถจอดให้เราได้เตรียมตัว เข้าห้องน้ำที่คาเฟ่เล็กๆ ก่อนเดินขึ้นไปยังภูเขาด้านบน มองแว๊บแรกก็แอบตกใจเล็กน้อยเพราะเป็นเส้นทางเดินหินกรวดเลาะริมเนินเขาค่อนข้างชัน ใจก็คิดว่า “จะไหวมั๊ยเรา” แต่มาถึงขนาดนี้แล้วห้ามท้อเด็ดขาด เราก็ค่อยๆ เดินกันไปตามแต่กำลังของแต่ละคนที่มี เส้นทางเดินมีหินแซมตลอดทำให้ต้องเดินช้าๆ กลัวลื่น ความดิบของเส้นทางเดินก็ทำให้เราคิดว่าที่นี่ยังสดดิบขนาดนี้ สิ่งที่กำลังจะได้เห็นหลังจากนี้คงต้องสวยเต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
เดินไปพักไปอยู่อย่างนี้ประมาณ 20 นาทีเริ่มเห็นความงามที่ค่อยๆ โผล่แซมเข้ามาเหนือเนินเขา เมื่อพ้นระยะ 20 นาทีนี้ เส้นทางเริ่มเปลี่ยนเป็นเนินหญ้าเตี้ยๆ ให้เราได้เดินสบายขึ้น ด้านขวามือมีร้านคาเฟ่เล็กๆ ให้เราได้แวะเติมพลัง ซื้อน้ำดื่มและน้ำโซดาชุ่มฉ่ำใจกินสักหน่อย ต่อด้วยเข้าห้องน้ำอีกสักทีเพราะรูปการณ์ของทางข้างหน้าคงไม่มีห้องน้ำให้แล้วแหละ จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อไปอีก 30 นาที มุ่งไปยังคาเฟ่ถัดไปอันเป็นเป้าหมายของเรา เพราะเราตั้งใจว่าจะมานอนเล่นจิบกาแฟ ณ ที่แห่งนี้ ระหว่างทางที่เดินเล่นไปเรื่อยๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่เร่งรีบ เราดื่มด่ำกับลำธารเล็กๆ ที่ไหลมาจากยอดเขา ถ่ายรูปมุมต่างๆ ไปเรื่อย เริ่มไม่สนใจเวลา ความรู้สึกเหนื่อยที่เดินขึ้นเนินชันหายไปอย่างเป็นปลิดทิ้ง Chaukhi Mountain ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างภูเขาข้างๆ เผยตัวให้เห็นชัดเจนขึ้นทุกทีที่เราเดินไป หัวใจเราพองโตเต็นเสียงดังตุบตับ ครั้งนี้ดังกว่าตอนเดินหอบแฮกๆ ในตอนแรกเสียด้วยซ้ำ เราเผลอพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ “ว๊าววว…. สวยมาก สวยจริงๆ” ของดีๆ มันไม่ได้มาง่ายๆ อย่างนี้นี่เอง
ทัวร์จอร์เจีย : ทางขึ้นจูทาวัลเลย์ในช่วงแรกๆ เมื่อเดินผ่านพ้นเนินเขาไปแล้วจะเริ่มเห็นยอดเขาชูว์คี เผยโฉมทีละนิด ทีละนิดทำให้หัวใจพองโต
ทัวร์จอร์เจีย : เส้นทางเริ่มเดินแรกๆ แทบทำให้คนออกกำลังกายน้อยอย่างเราท้อเล็กๆ แต่ท้ายที่สุดเพียง 20 นาทีหลังจากนี้ ก็ความงามของธรรมชาติจอร์เจีย ก็เริ่มทำให้เราตื่นเต้นและหัวใจละลายไปเลย
ทัวร์จอร์เจีย : ตอนนี้เริ่มมองเห็นภูเขาไซส์บิ๊กเบิ้มแล้วจ้า มีหิมะปกคลุมสวยงามโดดเด่นมาก
ทัวร์จอร์เจีย : หลังจากที่หอบสังขารขึ้นมาบนเนินเขาสูง แอบมีเหนื่อยเล็กๆ ก็ถึงเวลาชิว นั่งจิบกาแฟ กินผลไม้(ที่พกไป) ดื่มด่ำบรรยากาศเต็มที่แล้วก็ค่อยกลับ
ที่จริงจากจุดที่เป็นเป้าหมายมานั่งชิวนอนชิวของเราแล้ว ยังสามารถเดินต่อไปอีกไกล ใครที่มีเป้าหมายมาไฮกิ้ง 2-3 วันจะต้องเดินต่อตามเส้นทางไปอีกเรื่อยๆ ถ้าคนที่ชอบเดินเทรคเอาแบบเบื้องต้น เบาๆ ก็สามารถเดินจนไปถึงทะเลสาบที่อยู่ถัดจากนี้ไปอีก 1 ชั่วโมงได้เลย ก็จะได้วิวอีกแบบ แต่ทริปของเราเน้นแพคเกจทัวร์จอร์เจีย แนวชิวมากกว่า ก็เลยขอไม่ไปต่อ ขอดื่มด่ำธรรมชาติจูทาวัลเลย์แบบกรุปกริบ
เมืองน้ำแร่ธรรมชาติบอโยมิ (Borjomi)
เมืองบอโยมิเป็นเป้าหมายอีกแห่งที่เราเลือกเดินทางมาเที่ยวเพราะว่าที่นี่มีความชุ่มชื้น บรรยากาศแบบสบายๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของน้ำแร่ธรรมชาติที่ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย
ในทริปนี้เราเดินทางไปยังเมืองอะเคาซิเคห์และค้างคืนที่นั่นก่อน จากนั้นจึงแวะมาเที่ยวที่บอโยมิก่อนเดินทางกลับเข้าสู่เมืองหลวงทบิลิซี่ในเย็นวันนี้
สิ่งที่เราเลือกเป็นออฟชั่นเสริมจากการซื้อทัวร์จอร์เจีย เมื่อมายังบอโยมิคือจ้างรถกอล์ฟขับลัดเลาะไปยังด้านหลังพาร์ค ซึ่งเป็นเนินเขาสูง รถกอล์ฟพาเราเข้าไปตามเส้นทางที่ปรกติไม่ได้ใช้สัญจรทั่วไป เป็นเส้นทางที่จะได้เข้าถึงธรรมชาติในบริเวณนี้อย่างแท้จริง สิ่งที่สร้างความประทับใจให้เราในเส้นทางนี้คือ วิวมุมสูงมองเห็นวิวเมืองบอโยมิจากสถานีกระเช้า (ทั้งๆที่เราไม่ได้ขึ้นกระเช้า) และต้นไม้ผลัดใบเป็นสีเหลืองมากมาย มีใบไม้ตกบนไหล่ทางสีเหลืองดูสวยงาม และที่สำคัญมีไฮไลท์คือเราได้แวะเที่ยวชมโบสถ์เล็กๆ ที่ไม่ได้น่าตื่นตาหรือมีประวัติศาสตร์อะไรมากที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาแห่งนี้ แต่บรรยากาศโดยรวมดูสงบ สวย คลาสสิค ของที่นี่ต่างหากที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจ
ทัวร์จอร์เจีย : บรรยากาศสวยแบบสงบของโบสถ์เล็กๆบนเนินเขาในบอโยมิ สิ่งนี้ไม่ได้มีอยู่ในทัวร์ทั่วไป
ทัวร์จอร์เจีย : สีสันของใบไม้บางชนิดที่ออกสีส้ม แสด แดง ในฤดูกาลนี้ แต่อย่าง่ไรก็ดีแถบตะวันออกของจอร์เจีย ที่ไม่ได้เป็นเนินเขาสูงก็จะไม่มีพืชพรรณที่ให้สีจัดจ้านมากนัก ได้ยินว่าสามารถหาได้เช่นกันแต่ต้องเข้าไปในป่าที่ลึกกว่านี้…
ทัวร์จอร์เจีย : ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงโรยลงบนพื้น
ทัวร์จอร์เจีย : เรานั่งรถกอล์ฟชมธรรมชาติบนเนินเขาเป็นอีกบรรยากาศที่ทำให้ทริปของเราไม่เบื่อเลย
เที่ยวภูมิภาคแห่งไวน์นอนสบายๆสไตล์คลาสสิคที่เทลาวี
สิ่งนี้สร้างความแฮปปี้อีกประการในทริปนี้นั้นไม่ใช่สถานที่เที่ยว แต่เป็นที่พักของเรา เพราะเป็นบรรยากาศการกินและนอนในแบบที่ให้ความรู้สึกเป็นคนจอร์เจียเป็นอย่างมาก
เราเดินทางมุ่งหน้าไปยังซิกนาคิ (Signakhi) เป็นภูมิภาคที่มีการทำไร่องุ่นและบ่มไวน์อยู่ทั่วไป ถือเป็นดินแดนแห่งไวน์ของจอร์เจียเลยทีเดียว เราแวะชมโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ แวะชิมไวน์ที่บ่มด้วยกระบวนการพื้นบ้านโบราณ (หมักในตุ่มยักษ์) และเดินทางต่อไปยังเมืองเทลาวีเพื่อไปนอนโรงแรมเล็กๆ แต่มีความเก๋ไก๋ได้อารมณ์ท้องถิ่นในแบบที่เราชื่นชอบ
โรงแรมแห่งนี้ชื่อว่า Chateau Mere เป็นโรงแรมที่มีใช้โครงสร้างปราสาทเก่าหลังเล็กๆ เป็นอาคารหินมีทาวเวอร์เก่าแก่มาปรับปรุงและสร้างอาคารที่พักเพิ่มเติมมาด้านข้าง มีสระว่ายน้ำเล็กๆ การจัดแต่งห้องพักไม่หรูหรา แต่กว้างขวางมาก ห้องน้ำเน้นความโรแมนติกมีสองฝักบัว เวลาอาบน้ำสามารถถูกหลังให้กันและมองออกไปนอกระเบียงเห็นวิวภูเขาสวยงาม
ในทริปนี้สาวๆ พักในห้องที่ตัวอาคารใหม่ ส่วนหนุ่มๆ เลือกพักในหอคอยรอเจ้าหญิงฟีโอน่าให้ปีนเข้ามาพาหนีตามกันไป
บรรยากาศการทานอาหารมื้อเย็นก็ประทับใจมากเพราะเราได้นั่งโต๊ะใหญ่หน้าเตาผิง มีการเสริฟไวน์ตลอดช่วง ทำให้ความรู้สึกหนาวเนื้อของเราผ่อนคลายลงไปจนเริ่มเป็นความรู้สึกร้อนผ่าวทั้งจากเตาผิงสุดคลาสสิคและไวน์รสเลิศที่ทางโรงแรมปรนเปรออย่างเต็มที่
ทัวร์จอร์เจีย : แวะชิมไวน์ท้องถิ่นที่บ่มด้วยกรรมวิธีแบบโบราณ ที่จะนำไวน์มาหมักไว้ในตุ่มขนาดยักษ์
ทัวร์จอร์เจีย : เข้าที่พัก Chateau Mere มีมุมถ่ายรูปกับถังบ่มไวน์ ฉากหลังเป็นโครงสร้างกำแพงปราสาทเล็กๆ ที่เก่าแก่คร่ำคราตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
ทัวร์จอร์เจีย : ที่พักให้อารมณ์คลาสสิคสุดๆ ประหนึ่งว่าเรามานอนพักร้อนที่ปราสาทของเจ้าคุณทวด
ทัวร์จอร์เจีย : เราได้ชั้นบนสุด มองวิวได้กว้างไกลสุดตา
ทัวร์จอร์เจีย : ทางเข้าลอบบี้และต่อเชื่อมไปยังห้องอาหาร เถาวัลย์และใบไม้ที่เลื้อยเปะปะอยู่หน้าประตูสีฟ้าแทงรากซอกซอนในร่องหินเก่าแก่ทำให้เราแอบกระชุ่มกระชวย
ทัวร์จอร์เจีย : ชายหนุ่มบนหอคอยที่มองหาเจ้าหญิงฟีโอน่า ให้กลับมา… รอแล้วรออีกเธอก็ไม่ว่า เพราะว่าหนีไปมีครอบครัวกับเชล็ค เสียแล้ว
ทริปสั้นๆ เพียง 8 วันกับแพคเกจทัวร์จอร์เจีย ในเส้นทางจอร์เจียตะวันออก ให้ความครบรสเป็นอย่างมาก ได้เห็นธรรมชาติสวยงาม ได้กินอาหารท้องถิ่นจอร์เจีย ได้พักแบบเก๋ๆ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ เป็นเครื่องการันตีได้ว่าถึงแม้จะเที่ยวกับทัวร์ ทัวร์จอร์เจีย ในแบบที่เราใส่สไตล์ของเราเองเข้าไปด้วย มันก็สนุกได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องลงทุนขับรถเองก็ได้ เที่ยวแบบนี้สบายดีและสนุกด้วยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องเล่าสนุกๆจากพี่แอ้น ที่นำมาให้เราได้ลงแชร์ประสบการณ์แพคเกจทัวร์จอร์เจียได้อ่านกัน ขอบคุณภาพประกอบจากพี่แป๋ง ที่จะจุดประกายเหล่านักเดินทางที่ชอบธรรมชาติอีกหลายท่านให้ลุกขึ้นมาคว้ากระเป๋าและออกเดินทางกันอีกครั้งหลังจากที่เราอยู่แต่บ้านกันมาหลายปี
